• 10 August 2022

วันที่ 8 สิงหาคม 2565 เวลา 09.00 น. ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จังหวัดตาก นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยมี นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวต้อนรับ และนายแพทย์บรรเจิด นนทสูติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กล่าวรายงาน ในการนี้นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล ผู้ตรวจราชการ กระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 2 พร้อมนายแพทย์ชิโนรส ลี้สวัสดิ์ สาธารณสุขนิเทศ เขตสุขภาพที่ 2 และคณะฯ เข้าร่วมในพิธีเปิด โดยในปีงบประมาณ 2560 โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้รับงบประมาณเพื่อก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก 6 ชั้น (มีชั้นใต้ดิน) ซึ่งเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 6 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 18,042 ตารางเมตร (โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560 เพื่อทดแทนอาคารผู้ป่วยนอก 2 ชั้น ที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2527 และไม่เพียงพอต่อการให้บริการในปัจจุบัน อีกทั้งสภาพอาคารบางส่วนชำรุดเสียหายต้องใช้งบประมาณในการซ่อมแซมอย่างต่อเนื่อง จึงได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารดังกล่าวขึ้น ซึ่งภายหลังที่อาคารผู้ป่วยนอกหลังใหม่แล้วเสร็จ สามารถขยายการบริการ ลดความแออัดของประชาชนผู้มารับบริการ ตลอดจนสามารถให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว นับว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพและคุณภาพบริการของโรงพยาบาลฯ ให้ดียิ่งขึ้นต่อไปด้วย

ต่อมาเวลา 10.30 น. นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์วินิจฉัยโรคด้านรังสีวิทยาครบวงจร โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยมีนายแพทย์บรรเจิด นนทสูติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯและ นายแพทย์ภานุมาศ ญาณเวทย์สกุล ผู้ตรวจราชการ กระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 2 และคณะฯ ร่วมพิธี และเยี่ยมชมศูนย์รังสีวิทยาศูนย์วินิจฉัยโรคด้านรังสีวิทยาครบวงจร โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับการให้บริการการตรวจทางรังสีวิทยา แก่ผู้ป่วยในพื้นที่จ.ตากและพื้นที่ใกล้เคียง เปิดให้บริการผู้ป่วยด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ได้แก่ การตรวจด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า(Magnetic Resonance Imaging, MRI), การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Computed Tomography, CT), การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ด้วยเครื่อง Digital Mammogram และการตรวจอัลตร้าซาวน์(Ultrasonography) ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่ ได้รับบริการทางการตรวจวินิจฉัยโรคทางรังสีวิทยา ที่ทันสมัย ปลอดภัย สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น